
15 วิธีดูแลสภาพจิตใจ หลังเผชิญความโศกเศร้า
(ตอนที่ 1)
เวลาที่คุณสูญเสียใครสักคนหรืออะไรบางอย่างที่มีความหมายกับคุณมาก ความโศกเศร้าที่เกิดขึ้นย่อมมากมายเป็นทวีคูณ ความเจ็บปวด ความทรงจำแสนเศร้า และคำถามที่ยังค้างคาใจคอยตามหลอกหลอนคุณอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คุณอาจจะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีวันจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ คุณจะไม่มีวันหัวเราะหรือเป็นตัวของตัวเองได้อีกแล้ว มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ เพราะแม้ว่าจะไม่มีความโศกเศร้าใดที่ไร้ความเจ็บปวด แต่ก็ยังมีวิธีโศกเศร้า ที่ดีต่อตัวคุณ และช่วยให้คุณก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง อย่าจมปลักกับชีวิตที่ไร้ความสนุกสนาน ข้ามผ่านการสูญเสียไปให้ได้อย่างช้า ๆ แล้วคุณ จะ ดีขึ้นอย่างแน่นอน
ตอนที่ 1 "ข้ามผ่านความโศกเศร้า"
1.) เผชิญหน้ากับการสูญเสีย หลังจากสูญเสียบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ บางครั้งเราก็อยากจะทำอะไรที่มันช่วยเลี่ยงความเจ็บปวด อะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นการตกเป็นทาสพฤติกรรมที่อันตรายอย่างการใช้ยาเสพติด การดื่มแอลกอฮอล์ การนอนมากเกินไป การใช้อินเทอร์เน็ตนานเกินไป หรือการมีเซ็กส์กับใครไม่เลือกหน้า พฤติกรรมเหล่านี้ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ สุดท้ายแล้วคุณก็จะเสี่ยงต่อการเสพติดและยิ่งสร้างความเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก คุณไม่มีวันหายดีได้อย่างแท้จริงตราบใดที่คุณยังไม่เผชิญหน้ากับความเจ็บปวด การเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดที่เกิดจากการสูญเสียหรือการเลี่ยงมันด้วยการหันเหความสนใจของตัวเองมีแต่จะทำให้ความเจ็บปวดกินเวลานาน ไม่ว่าคุณจะวิ่งออกมาจากความเจ็บปวดเร็วแค่ไหน สุดท้ายแล้วความโศกเศร้าก็จะกลับไปกลืนกินคุณเหมือนเดิม เผชิญหน้ากับการสูญเสีย ปล่อยให้ตัวเองได้ร้องไห้หรือเศร้าโศกอย่างเป็นธรรมชาติ อันดับแรกคุณต้องตระหนักถึงความเศร้าโศกของตัวเองก่อน แล้วจึงจะเริ่มเอาชนะมันได้
ถ้าการสูญเสียยังคงสดใหม่อยู่ในความทรงจำ คุณต้องปล่อยตัวเองให้โศกเศร้าเต็มที่ แต่ก็ควรกำหนดระยะเวลาที่จะปล่อยให้ตัวเองเศร้าด้วย ให้เวลาตัวเองได้เศร้าอย่างเต็มที่สักพัก อาจจะเป็น 2–3 วันหรือสัก 1 สัปดาห์ เพราะการจมปลักอยู่กับความเศร้าอย่างไม่มีกำหนดมีแต่จะทำให้คุณติดอยู่กับความรู้สึกสูญเสีย ความรู้สึกสงสารตัวเองจะทำให้คุณไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรและไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้
2.) ปลดปล่อยความเจ็บปวดออกมา. ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา อย่ากลัวที่จะร้องไห้แม้ว่ามันจะไม่ใช่นิสัยของคุณก็ตาม ความรู้สึกหรือการแสดงความรู้สึกไม่มีผิดไม่มีถูก สิ่งสำคัญคือคุณรับรู้ถึงความเจ็บปวดและพยายามที่จะก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้ คุณเป็นคนเลือกเองว่าอยากจะแสดงความเจ็บปวดออกมาอย่างไร และแต่ละคนก็มีวิธีแสดงออกถึงความเจ็บปวดที่ไม่เหมือนกัน
หาวิธีปลดปล่อยความเจ็บปวด ถ้าคุณอยากจะทำกิจกรรมอะไรเป็นพิเศษขณะที่คุณกำลังเศร้า ทำเลย (แต่มีเงื่อนไขว่าต้องไม่ทำให้ตัวเองหรือคนอื่นเจ็บปวด) การร้องไห้ ทุบหมอน วิ่งไปไกล ๆ เขวี้ยงของ ขับรถออกไปไกล ๆ กรีดร้องสุดเสียงในป่าหรือที่ที่ไม่มีใครได้ยิน และวาดภาพความทรงจำเป็นวิธีที่หลายคนใช้ระบายความเจ็บปวด และทุกวิธีก็สมเหตุสมผลเท่ากัน
อย่าทำอะไรที่อาจทำร้ายตัวเองหรือคนอื่น การสูญเสียไม่ใช่การสร้างอันตรายหรือทำให้ทุกอย่างแย่ลง แต่การสูญเสียคือเวลาที่เราจะได้เรียนรู้การใช้อารมณ์ที่ซ่อนอยู่ภายในและเรียนรู้ที่จะรับมือกับความเจ็บปวด
3.) ระบายความรู้สึกกับคนอื่น. การหาคนดูแลยามที่คุณทุกข์ทรมานนั้นเป็นเรื่องที่ดี ถ้าคุณไม่มีเพื่อนให้ระบายความรู้สึก ให้คุยกับคนแปลกหน้าที่เข้าอกเข้าใจ นักบวช ที่ปรึกษา หรือนักบำบัด แม้ว่าคุณจะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีสติ สับสน และไม่แน่ใจก็ตาม เพราะการได้คุยกับคนที่คุณไว้ใจเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยปลดปล่อยคุณจากความเจ็บปวดที่กำลังเผชิญอยู่ ให้มองว่าการพูดคุยเป็นหนึ่งในวิธีการ "จัดระเบียบ" อารมณ์ของตัวเอง ความคิดของคุณไม่จำเป็นต้องปะติดปะต่อกัน แค่ต้องแสดงออกมาเท่านั้นเอง
ถ้าคุณกังวลว่าคนที่รับฟังคุณเขาจะสับสนหรือไม่พอใจในสิ่งที่คุณพูด เพื่อคลายความกังวลในเรื่องนี้ ให้บอกเขาก่อนตั้งแต่เริ่มคุยว่าคุณกำลังเศร้า ไม่พอใจ สับสน คำพูดบางคำของคุณอาจจะไม่เข้าท่า แต่คุณแค่ต้องการใครสักคนรับฟัง เพื่อนที่ห่วงใยคุณหรือคนที่สนับสนุนคุณเขาไม่ว่าอะไรคุณหรอก
4.) อยู่ให้ห่างจากคนที่ไม่เห็นอกเห็นใจคุณ. ที่แย่ก็คือ ไม่ใช่ว่าคนที่คุณคุยด้วยขณะเศร้าจะเห็นอกเห็นใจคุณทุกคน อย่าไปสนใจคนที่พูดว่า "ยอมรับสักทีเหอะ" "อย่าอ่อนแอนักเลย" "ฉัน เศร้าแป๊บเดียวก็หายแล้วตอนที่เกิดเรื่องนี้กับฉัน" เป็นต้น พวกเขาไม่รู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร เพราะฉะนั้นอย่าไปสนใจคำพูดใจร้ายของคนบางคน บอกพวกเขาว่า "ถ้าทนไม่ได้ละก็ คุณไม่จำเป็นต้องมาเข้าใกล้ฉันในช่วงที่ฉันกำลังเศร้า เพราะฉันต้องข้ามผ่านมันไปให้ได้ไม่ว่าคุณจะรู้สึกกับเรื่องนี้อย่างไรก็ตาม เพราะฉะนั้นกรุณาให้พื้นที่ส่วนตัวแก่ฉันด้วย"
คนที่พูดคำพูดแรง ๆ ใส่คุณตอนที่คุณกำลังเศร้าอาจจะเป็นเพื่อนที่หวังดี (แต่แสดงออกไม่เป็น) ค่อยกลับไปสังสรรค์กับพวกเขาใหม่หลังจากคุณเข้มแข็งขึ้นแล้ว ระหว่างนั้นให้ถอยห่างจากพวกเขาก่อน เพราะพวกเขาจะไม่อดทนกับเรื่องของคุณ และคุณก็ไม่สามารถเร่งรัดการฟื้นฟูทางจิตใจได้
5.) อย่าเก็บความรู้สึกผิดไว้ในใจ. หลังจากสูญเสียใครสักคน คุณอาจจะรู้สึกผิด คุณอาจจะคิดวนไปวนมาว่า " ฉันน่าจะได้บอกลาเขาเป็นครั้งสุดท้าย" หรือ " ฉันน่าจะทำดีกับเขาให้มากกว่านี้" อย่าปล่อยให้ตัวเองจมปลักกับความรู้สึกผิด คุณ ไม่อาจ เปลี่ยนแปลงอดีตด้วยการคร่ำครวญซ้ำไปซ้ำมาได้ การที่คุณสูญเสียคนที่คุณรักนั้นไม่ใช่ความผิดของคุณ แทนที่จะจมอยู่กับความคิดว่าฉัน น่า จะทำหรือ ควร จะทำ เปลี่ยนมาคิดว่าคุณ สามารถ ทำอะไรได้บ้าง ไตร่ตรองอารมณ์และเดินหน้าต่อไป
ถ้าคุณรู้สึกผิดหลังจากสูญเสียใครสักคน ให้คุยกับคนอื่น ๆ ที่รู้จักคนที่คุณสูญเสียหรือสัตว์เลี้ยง พวกเขาจะทำให้คุณเชื่อว่าการสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของคุณได้อย่างแน่นอน
6.) เก็บของที่ระลึกเกี่ยวกับคนที่คุณรักไว้. แค่เพราะใครสักคนหรือสัตว์เลี้ยงของคุณจากไปก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะจดจำพวกเขาไปตลอดไม่ได้ การที่ได้รู้ว่าแม้ว่าคน ๆ นั้นหรือสัตว์เลี้ยงตัวนั้นไม่มีวันกลับมาอยู่ตรงนี้อีกแล้ว แต่มิตรภาพ ความรัก และความผูกพันระหว่างกันก็ยังคงอยู่เป็นวิธีคิดที่สร้างความอบอุ่นใจ ไม่มีใครพรากสิ่งเหล่านั้นไปจากคุณได้ มิตรภาพที่คุณมีร่วมกับพวกเขาก็จะเป็นส่วนหนึ่งของคุณตลอดไป ของที่ระลึกบางอย่างก็สมควรเก็บไว้เพื่อให้คุณได้ระลึกถึงความกล้าหาญ แรงใจ และความสามารถในการมองอนาคตที่ดีกว่าของตัวคุณเอง
เก็บของที่ระลึกที่ย้ำเตือนถึงเขาหรือสัตว์เลี้ยงเอาไว้ในกล่องให้พ้นหูพ้นตา หยิบมาดูเวลาที่อยากคิดถึงความทรงจำเรื่องของเขาให้ชัด ๆ การวางของที่ระลึกเกี่ยวกับเขาไว้รอบตัวไม่ใช่เรื่องดี เพราะการย้ำเตือนเสมอ ๆ ว่าเขาจากไปแล้วยิ่งทำให้คุณก้าวต่อไปได้ยากขึ้น
7.) ขอความช่วยเหลือ. สังคมของเราตีตราต่อต้านคนที่ขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาทางอารมณ์ไว้อย่างอันตรายและร้ายกาจ การไปพบนักบำบัดหรือที่ปรึกษานั้น ไม่ได้ ทำให้คุณเป็นคนอ่อนแอหรือน่าสงสาร หากแต่เป็นสัญญาณของความเข้มแข็ง การที่คุณขอความช่วยเหลือที่คุณจำเป็นต้องได้รับนั้นเป็นการแสดงออกถึงความปรารถนาที่จะก้าวเดินต่อไปและเอาชนะความโศกเศร้าที่น่าชื่นชม อย่าลังเลที่จะนัดตารางเพื่อพูดคุยกับคนที่มีอาชีพด้านนี้โดยตรง ในปีพ.ศ. 2547 ผู้ใหญ่ชาวอเมริกันกว่า 1 ใน 4 เข้าพบนักบำบัดในช่วง 2 ปีก่อนหน้านั้น
ติดตามต่อ ตอนที่ 2 มุ่งหน้าหาความสุข ได้ในโพสท์หน้านะคร็าบบ ^^
Cr. th.wikihow.com
========================
#Happinex (แฮปปิเน็ก) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสมุนไพรธรรมชาติ ช่วยลดอาการซึมเศร้า วิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ เครียด ช่วยให้หลับลึก ปรับสมดุลของสารเคมีในสมอง และบำรุงสมอง ความจำ สมาธิ ไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีสารเคมีตกค้าง ตับและไตไม่ต้องทำงานหนัก ^^
** สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม **
1) LINE ID: @happinex (มี @ นำหน้า)
หรือกดที่ link => http://line.me/ti/p/%40happinex
2) TEL: 095-562-1848
3) WEBSITE: http://happinex.lnwshop.com