
วิธีเพิ่มระดับเซโรโทนินแบบธรรมชาติ
เซโรโทนิน คือ สารเคมีสำคัญในสมองที่ช่วยทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้น และทำให้คุณหายรู้สึกเศร้าหรือหดหู่ แม้จะมียาที่ช่วยเพิ่มระดับของเซโรโทนินได้ ก็ยังมีวิธีธรรมชาติอีกมากมายที่ให้ผลแบบเดียวกัน ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงวิธีธรรมชาติบางประการที่จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มระดับเซโรโทนินได้ คุณจะได้กลับมามีความสุข รู้สึกอิ่มเอม และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอีกครั้ง
วิธีการ 1 การเพิ่มระดับเซโรโทนินด้วยอาหาร
1.) ทำความเข้าใจความเชื่อเรื่องเซโรโทนินและอาหาร. น่าเสียดายที่มีความเชื่อผิดๆ มากมายเกี่ยวกับอาหารที่ช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนิน เช่น:
อาหารที่อุดมไปด้วยทริปโตเฟนช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินได้โดยอัตโนมัติ นี่เป็นความเชื่อที่ผิด อาหารส่วนใหญ่ที่มีทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง จะแข่งขันกับกรดอะมิโนชนิดอื่นๆ เพื่อที่จะได้รับการดูดซึมโดยระบบลำเลียงของร่างกาย[1] การรับประทานไก่งวงที่มีทริปโตเฟนสูงในปริมาณมาก ไม่ได้ทำให้คุณมีระดับเซโรโทนินเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ
การรับประทานกล้วยจำนวนมากจะเพิ่มระดับเซโรโทนินได้โดยอัตโนมัติ กล้วยมีเซโรโทนินอยู่จริง แต่เซโรโทนินในกล้วยจะไม่สามารถข้ามผ่านตัวกรองกั้นระหว่างเลือดและสมองและถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้
2.) หลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวและหันมารับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน. ร่างกายดูดซึมคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนได้แตกต่างจากคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว โดยคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวขาวและขนมปังขาว จะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้อินซูลินพุ่งสูงขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา[2] ส่วนคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจะถูกร่างกายดูดซึมอย่างช้าๆ จึงไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดและอินซูลินพุ่งสูงขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็วเหมือนคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว
🔹 คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น:
- ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วลันเตาและถั่วเลนทิล
- ขนมปังไม่ขัดสี
- เส้นพาสต้าไม่ขัดสี
- ข้าวกล้อง
- ผักที่มีแป้งมาก เช่น มันเทศและพาร์สนิป
🔹 คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น:
- ขนมปังขาว
- ข้าวขาว
- เส้นพาสต้า "ทั่วไป"
- เค้ก ลูกอม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีน้ำตาลขัดสี
3.) หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาเฟอีน โดยเฉพาะเครื่องดื่มให้พลังงาน. คาเฟอีนกดเซโรโทนินเอาไว้ ซึ่งช่วยอธิบายว่าทำไมคาเฟอีนจึงกดความรู้สึกหิวเอาไว้ด้วย[2] เครื่องดื่มให้พลังงานมีน้ำตาลปริมาณสูง โดยน้ำตาลเหล่านี้จะถูกย่อยและดูดซึมอย่างรวดเร็ว แต่ทำให้เกิดภาวะพลังงานตกหลังจากที่ระดับอินซูลินลดลงแล้ว แพทย์แนะนำว่า หากคุณต้องดื่มผลิตภัณฑ์ที่มีคาเฟอีน ให้ดื่มหลังจากที่คุณรับประทานอาหารเสร็จแล้ว
4.) บริโภคไขมันที่ดีต่อร่างกาย เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3. มีการตั้งสมมติฐานว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 ส่งผลต่อการทำงานของเซโรโทนินในสมอง ผู้ที่มีระดับเซโรโทนินต่ำโดยทั่วไปแล้วจะมีระดับ DHA ต่ำเช่นกัน โดย DHA เป็นหน่วยโครงสร้างที่จำเป็นในสมอง และต้องได้รับการเสริมสร้างด้วยอาหาร เช่น น้ำมันปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง มองหากรดไขมันโอเมก้า 3 ได้จาก:
- ปลา เช่น แซลมอนและน้ำมันปลา
- ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืช และน้ำมันจากเมล็ดพืช เช่น น้ำมันเมล็ดแฟล็กซ์
.
5.) รับประทานดาร์กช็อกโกแลต. การรับประทานดาร์กช็อกโกแลตช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนิน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรสเวอราทรอล เรสเวอราทรอลช่วยเพิ่มระดับเอนดอร์ฟินและเซโรโทนิน อย่าลืมเลือกดาร์กช็อกโกแลตแทนมิลค์ช็อกโกแลต เพราะมิลค์ช็อกโกแลตมีโกโก้ (ส่วนผสมที่ผลิตเซโรโทนิน) น้อยกว่าดาร์กช็อกโกแลตมาก
วิธีการอื่นๆ เช่น
1.) ออกกำลังกายเป็นประจำ. การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มระดับเซโรโทนิน[1] ผลลัพธ์ที่ได้มีความชัดเจน คือ การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มระดับทริปโตเฟน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของเซโรโทนิน ทริปโตเฟนจะยังคงอยู่ในร่างกายหลังออกกำลังกายเสร็จแล้ว ซึ่งหมายความว่า คุณจะยังอารมณ์ดีอยู่หลายชั่วโมงหลังออกกำลังกาย
ออกกำลังกายในระดับที่คุณคุ้นเคย งานวิจัยของอังกฤษพบว่า การออกกำลังกายในระดับที่แต่ละคนทำแล้วรู้สึกดีจะทำให้มีการหลั่งเซโรโทนินอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่การออกกำลังกายที่หนักหน่วงเกินไปจนทนไม่ไหว
หากคุณไม่มีเวลาออกกำลังกายเป็นประจำ ลองใช้วิธีเดิน 30 นาที - 1 ชั่วโมงต่อวัน อย่างน้อยที่สุด การออกกำลังกายแบบพอประมาณนี้จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่และเพิ่มระดับทริปโตเฟน ทำให้ระดับเซโรโทนินเพิ่มขึ้น
2.) ได้รับแสงแดดอย่างพอเพียง. แสงแดดน่าจะช่วยในการสังเคราะห์เซโรโทนิน งานวิจัยชิ้นหนึ่งได้ค้นพบความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างการสังเคราะห์เซโรโทนินและจำนวนชั่วโมงที่มีแสงแดดทั้งหมดในระหว่างวัน จากการชันสูตรศพของมนุษย์ พบว่าระดับของเซโรโทนินในช่วงฤดูร้อนสูงกว่าในช่วงฤดูหนาว คุณอาจอารมณ์ดีขึ้นได้ง่ายๆ เพียงเปิดม่านให้แสงสว่างเข้าไปในห้องของคุณ
ให้รับแสงธรรมชาติในระหว่างวัน แต่ไม่ควรรับแสงประดิษฐ์ในเวลากลางคืน แสงแดดธรรมชาติในช่วงกลางวันให้เซโรโทนินแก่คุณได้ดีกว่าแสงประดิษฐ์จากหลอด LED หลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือแสงยูวี การได้รับแสงประดิษฐ์โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ยังส่งผลเสียต่อที่สองโดยขัดขวางการผลิตเมลาโทนิน ซึ่งช่วยให้คุณนอนหลับสบายในเวลากลางคืน
3.) ลงทุนไปนวด. งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า การนวดบำบัดช่วยลดระดับคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนเครียด และช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินและโดพามีน[10][11] ประโยชน์สองต่อนี้ทำให้การนวดดีต่อคุณมากเป็นพิเศษ
4.) เข้าใจว่าความเครียดอาจแทรกแซงระดับเซโรโทนินได้. ความเครียดเป็นเวลานานอาจทำให้ระดับเซโรโทนินลดลง[12] ความเครียดอย่างรุนแรงและจริงจังอาจมีผลต่อความสามารถของร่างกายในการผลิตและสังเคราะห์เซโรโทนิน ซึ่งหมายความว่า คุณควรหลีกเลี่ยงสถานการณ์เครียดๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และควรหาวิธีจัดการความเครียดที่ดีต่อสุขภาพเมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกเครียด
5.) หวนรำลึกถึงความทรงจำที่ดีๆ. แม้จะฟังดูเชยๆ แต่การหวนรำลึกถึงช่วงเวลาดีๆ ก็อาจเพียงพอแล้วที่จะเพิ่มระดับเซโรโทนินในสมอง[9] หากคุณมีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้า การทำเช่นนี้อาจช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินได้โดยตรง และทำให้คุณไม่หมกมุ่นอยู่กับช่วงเวลาที่มีความทุกข์ การไม่สามารถนึกถึงช่วงเวลาดีๆ ได้เรียกว่า "การหวนรำลึกที่ต้องขึ้นอยู่กับสภาวะอารมณ์ดั้งเดิม" หากคุณไม่สามารถจำช่วงเวลาที่ดีๆ ได้ ให้ลองคุยกับเพื่อนหรือครอบครัว และเปิดดูบันทึกหรือภาพเก่าๆ
Cr. th.wikihow.com
========================
#Happinex (แฮปปิเน็ก) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสมุนไพรธรรมชาติ ช่วยลดอาการซึมเศร้า วิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ เครียด นอนไม่หลับ ปรับสมดุลของสารเคมีในสมอง และยังช่วยบำรุงสมอง ความจำ สมาธิอีกด้วย ไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีสารเคมีตกค้าง ตับและไตไม่ต้องทำงานหนัก ผลิตโดยนวัตกรรมการผลิตระดับโลก ปลอดภัย 100% ^^
** สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม **
1) LINE ID: @happinex (มี @ นำหน้า)
หรือกดที่ link => http://line.me/ti/p/%40happinex
2) Inbox Facebook
กดที่ link => https://facebook.com/messages/happinexthailand
3) TEL: 095-562-1848
4) WEBSITE: http://happinex.lnwshop.com