15 วิธีฝึกเป็นคนคิดบวก (ตอนจบ)
มาต่อกันเลยครับกับวิธีที่ 11-15 วิธีฝึกเป็นคนคิดบวก
วิธีที่ 11 อวยพรให้ผู้อื่น
การอวยพร ไม่ว่าจะในโอกาสใดๆ สามารถสร้างความคิดในด้านบวกให้กับเราได้ เพราะก่อนที่เราจะอวยพรให้กับใครได้ เราจะต้องรวบรวมความคิด คำพูด และความรู้สึกดีๆที่อยากจะมอบให้กับผู้อื่น แถมความรู้สึกดีๆจากการที่เราได้ทำอะไรให้กับผู้อื่นก็ทำให้เราคิดบวกกับตัวเราเองได้ด้วย (ขอให้อวยพรออกมาจากใจก็พอ)
วิธีที่ 12 หยุดความคิดลบ โดยหันเหไปหากิจกรรมต่างๆ
ฝึกรู้เท่าทันความคิดของตัวเราเอง เมื่อมีความคิดที่เป็นลบ ให้เราเตือนตัวเอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นให้หันเหความคิดไปสู่สิ่งอื่น หรือ ให้ถามตัวเองว่าความคิดลบนั้นๆ เป็นจริงมากน้อยแค่ไหน มีอะไรที่สามารถมาคัดค้านความคิดลบนั้นได้บ้าง แล้วเราจะเลือกที่จะเชื่อในความคิดลบนั้นอยู่หรือไม่ ถ้ายังเลือกที่จะเชื่อความคิดลบนั้นเราจะต้องแลกกบอะไรบ้าง และถ้าเลือกที่จะหยุดความคิดลบนั้นชีวิตเราจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง
วิธีที่ 13 ลดคำถามที่ขึ้นต้นว่า “ทำไม”
การถาม "ทำไม" มีอยู่สองแบบ
แบบแรก "ทำไม"เพื่อคนหาความจริง เพื่อจะได้ค้นหาเหตุของความขัดแย้งและแก้ไข เพื่อแก้โจทย์วิทยาศาสตร์และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อProductivity ทำให้อะไรๆดีขึ้น
แบบที่สอง "ทำไม" ที่สงสัยไปคิดไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร ได้คำตอบแล้วก็ไม่ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น รังแต่จะทำให้ฟุ้งซ่านและเศร้าซึมไปเปล่าๆ เช่น ทำไมคนนั้นไม่ทำแบบนั้นให้ฉัน ทำไมชะตาฉันถึงได้ต้องแย่แบบนี้ ทำไมโชคถึงไม่เข้าข้างฉันเลยเป็นต้น
การลดคำถามว่า"ทำไม" ในที่นี้ จึงหมายถึงความหมายอย่างหลังครับผม เรื่องบางเรื่อง ยิ่งถามก็ยิ่งไม่มีคำตอบ ยิ่งฟุ้งซ่านก็ยิ่งวกวน ทางที่ดี คือ ให้ลองหยุดตั้งคำถามเหล่านี้ แล้วลองถามกับตัวเองด้วยคำถามแนวใหม่ว่า "แล้วทำไมสิ่งต่างๆจะต้องเป็นแบบที่เราต้องการด้วย" ก็อาจทำให้เราเข้าใจความต้องการของตัวเอง เกิดความผ่อนคลาย และสามารถมองชีวิตในมุมบวกได้มากยิ่งขึ้น
วิธีที่ 14 ใช้ร่างกายดึงจิตใจ
ถ้าจิตใจของเรามีอิทธิพลต่อร่างกายได้ การกระทำต่างๆของร่างกายก็มีผล(ย้อนกลับ)ต่อจิตใจเช่นเดียวกัน หากเราพยายามทำท่าทางที่แสดงออกถึงกำลังใจ/ชัยชนะหรือท่าทางของความสุข ก็จะสามารถช่วยให้เกิดความรู้สึกในด้านบวกได้
ท่าทางที่เป็นบวก เช่น...
* ยกมือทั้งสองข้างสูงขึ้นเหนือศีรษะขึ้นลงหลายๆครั้ง
* กระตุ้นให้ตัวเองไม่อยู่นิ่ง พยายามยกมือไปมา กำหมัดแน่นๆ
* พยายามนั่งตัวตรง ไม่ห่อไหล่
* "การยิ้ม" ให้ตัวเองในกระจกแม้ในยามที่มีความเครียด
วิธีที่ 15 ใช้คำถามต้านความคิดลบ
หนึ่งในการจัดการความคิดลบที่ได้ผลที่สุด นั่นคือ การไม่เชื่อความคิดลบนั้น (เหมือนจะง่าย แต่ยากนะ) โดยเริ่มจากการจับความรู้สึกในด้านลบที่เกิดขึ้นให้ได้ก่อน จากนั้นสาวให้ลึกลงไปถึงความคิดที่เป็นที่มาของอารมณ์ แล้วใช้ "ชุดคำถามต้านความคิดลบ" ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนสติ และทำให้เรามีมุมมองที่เป็นบวกและยืดหยุ่นต่อปัญหาได้มากขึ้น
"คำถามต้านความคิดลบ"
>> ประกอบไปด้วยชุดของคำถามสั้นๆ ประมาณ 5-8 ข้อต่อไปนี้....
* ความคิดลบนี้ เป็นความคิดที่ถูกหรือไม่?
* ความคิดลบนี้ มีอะไรมาสนับสนุนว่ามันเป็นจริง?
* ความคิดลบนี้ มีอะไรมาขัดแย้งว่ามันอาจจะไม่จริง?
* ความคิดลบนี้ มีประโยชน์หรือไม่?
+มันช่วยให้ชีวิตเรามีความสุขขึ้นเหรอ?
* ความคิดลบนี้ มีโทษอย่างไร?
+อะไรคือสิ่งที่แย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นถ้ายังคิดแบบนี้อยู่?
และคำถามสุดท้าย
สรุปว่าความคิดลบนี้ เรายังจำเป็นต้องเชื่อมันอยู่มั้ย?
Cr. คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา (www.facebook.com/D2JED)
========================
#Happinex (แฮปปิเน็ก) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสมุนไพรธรรมชาติ ช่วยลดอาการซึมเศร้า วิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ เครียด ช่วยให้หลับลึก ปรับสมดุลของสารเคมีในสมอง และบำรุงสมอง ความจำ สมาธิ ไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีสารเคมีตกค้าง ตับและไตไม่ต้องทำงานหนัก ^^
** สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม **
1) LINE ID: @happinex (มี @ นำหน้า)
หรือกดที่ link => http://line.me/ti/p/%40happinex
2) TEL: 095-562-1848
3) WEBSITE: http://happinex.lnwshop.com